Tuesday, September 30, 2008

Honeymoon's cystitis...เอ!! โรคอะไรกันนะ???

มุมซักประวัติ..


วันนี้กำลังคิดว่าจะเขียนอะไรดี..
นึกขึ้นได้ว่าตอนสายๆพี่ที่ทำงานด้วยกันบอกว่าฝากโต๊ะแป็ปนะเดี๋ยวไปห้องน้ำก่อนนะ
จากการสอบถาม(กระซิบ)กันเบาๆพี่เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

โอ๊ว!!โรคนี้ใครเป็นทรมานสุดๆจริงๆเพราะจะมีอาการปวดท้องน้อยจะมีการปัสสาวะบ่อย แสบ ขัด กระปริบกระปรอย รู้สึกถ่ายไม่สุด กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ บางรายมีเลือดออกมาด้วย



พบในเด็กอนุบาลไปจนถึงคนสูงอายุ (โดยเฉพาะคนที่อนามัยจัดคือ อั้นๆๆจนชิน)
โดยเฉพาะพยาบาลที่ทำงานนั่งซักประวัติผู้ป่วยที่มาใช้บริการจำนวนมากๆ
และลุกจากที่ทำงานได้ยากเพราะติดพันงานหรือประเภทเอาไว้ก่อน..อีกนิดน่ะ..
จนไม่มีเวลาไปเข้าห้องน้ำและยิ่งห้องน้ำไม่สะอาดก็ปัสสาวะไม่ออกซะงั้น..
บางคนเป็นบ่อยๆเนื่องจากมีความผิดปกติทางกายวิภาคของของกระเพาะปัสสาวะ
หรือท่อปัสสาวะต้องใส่สายสวนปัสสาวะไว้ตลอดเอาสายออกไม่ได้เลยก็เคยเจอ
โดยเฉพาะผู้หญิงที่อยู่ในช่วงหลังฮันนี่มูนกลับมาใหม่ๆต้องแอบกระซิบคุณหมอขา..(หนูขอยาหน่อยค่ะ)
ก็เลยเรียกว่าโรค Honeymoon Disease เพราะสาเหตุนี้นะเอง
สมัยเราเป็นนักศึกษาพยาบาลอาจารย์หมอบอกจะสอนเรื่องโรค "ฮันนี่มูนดีซิส"ก็นั่งถามกันโรคอะไรชื่อแปลกจัง..
(ดูหวานๆแต่แฝงความเจ็บปวด)..แต่ก็มีหลายคนพูดว่า"โรคคนในอยากออก คนนอกอยากเข้า"
จากการซักประวัติผู้ป่วยที่เข้ามาตรวจ เราจะพบว่ามีอาการแบบที่กล่าวมาแล้วนั้นแทบทุกคน
และจะต้องส่งไปตรวจปัสสาวะก่อนพบแพทย์เพื่อให้การรักษาที่รวดเร็วขึ้น
โดยปัสสาวะมีเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะมากกว่า 5-10 ตัว
แบคทีเรียที่ตรวจพบในปัสสาวะมากกว่า 1 ตัว
ส่วนการส่งเพาะเชื้อปัสสาวะมีความจำเป็นในผู้ป่วยสูงอายุ มีอาการของโรคนานเกิน 7 วัน
ผู้ป่วยที่มีประวัติเคยเป็นซ้ำๆบ่อยๆ และผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือโรคเรื้อรังอื่น เช่น เบาหวาน โรคตับ โรคไต

วิธีง่ายๆ...ถ้าเราไม่อยากเป็นโรคนี้!!...

*พยายามดื่มน้ำมากๆ และอย่ากลั้นปัสสาวะ ควรฝึกการถ่ายปัสสาวะนอกบ้าน หรือระหว่างเดินทางได้ทุกที่
การกลั้นปัสสาวะทำให้เชื้อโรคอยู่ในกระเพาะปัสสาวะได้นานจนสามารถเจริญเติบโตทำให้เกิดการอักเสบได้
*หลังถ่ายอุจจาระควรใช้กระดาษชำระเช็ดทำความสะอาดจากข้างหน้าไปข้างหลังเพื่อป้องกันไม่ให้นำเชื้อโรคเข้าสู่ท่อปัสสาวะ
*สำหรับอาการขัดเบาหลังร่วมเพศ (Honeymoon’ s cystitis) อาจป้องกันได้โดยดื่มน้ำ 1 แก้ว
ก่อนร่วมเพศควรใส่ครีมหล่อลื่นช่องคลอดก่อนถ้าจำเป็น และถ่ายปัสสาวะทันทีหลังร่วมเพศ
*ระหว่างที่มีตกขาว ควรทำความสะอาดบ่อยขึ้น อย่าให้หมักหมมถ้าจำเป็นอาจต้อง พบแพทย์นรีเวช
*หลีกเลี่ยงอาการท้องผูกนานๆ ถ้าจำเป็นอาจต้องใช้ยาระบาย
*พิจารณาให้ยาปฏิชีวนะจากแพทย์

Monday, September 8, 2008

โรคหมอเจ็บ(Hyperventilation )



Hyperventilation โรคหายใจแรง มือเท้าเกร็ง (โรคหมอเจ็บ)

Hyperventilation เป็น อาการที่เกิดจาก ความผิดปกติ ของภาวะทางจิตใจ
มีอาการเมื่อมีความวิตกกังวล มีเรื่องเครียด กลัว หรือแม้แต่ ตกใจมากๆ หรือในบางคนที่ปวดหัวมาก มีไข้สูงมาก หรือเจ็บปวดจากอย่างอื่น ทำให้เกิดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อคล้ายตะคริว
มีลักษณะเฉพาะ คือ จะเกร็งแบบ นิ้วมือจีบเข้าหากัน ข้อมือบิดเข้าหาตัว ปลายเท้าเหยียดเกร็ง ที่เรียกกันว่า Carpopedal Spasm


สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการเหล่านี้ ต้องถามอาการและตรวจอย่างละเอียด เพื่อแยกภาวะเจ็บป่วยจากโรคอื่นๆ ที่อาจมาด้วยอาการเช่นนี้ได้ ได้แก่ hypoglycemia, seizure, asthma, myocardial infarction หรือ Meniere’s disease เป็นต้น

วิธีการดูแล

ผู้ป่วยสามารถทำให้อาการเหล่านี้หายเองได้ โดยควบคุม การหายใจให้น้อยลงซึ่งมีหลายวิธีได้แก่
*เมื่อพบเห็นก็ให้เอาถุงพลาสติค หรือถุงกระดาษ หรือ กรวยกระดาษ ครอบหน้าให้เค้าหายใจเอา CO2 ที่หายใจออกมา ให้ย้อนกลับเข้าไป (แต่ต้องเปิดให้หายใจ อากาศปกติด้วยนะ ไม่งั้นเดี๋ยวขาด O2 ตายกันพอดี )
*ทำใจสบายๆ ผ่อนคลายหายใจช้าๆ เบาๆ ลงให้รู้สึกมั่นใจอบอุ่น ไม่ตกใจกังวล
* รักษาต้นตอ ของคนไข้ เช่นลดภาวะไข้ ปวด หรือ ผ่อนคลายความเครียดลง ก็จะดีขึ้น
ถ้ายังมีอาการมาก ก็พามาพบแพทย์ และโดยเฉพาะความรักความเข้าใจแค่นี้โรคหมอเจ็บก็หายแล้วค่ะ

Sunday, September 7, 2008

"เขย่งปลายเท้า" ขจัดกามตายด้าน



ขจัดกามตายด้านด้วย”การเขย่ง”

ผู้ชายส่วนใหญ่ตื่นเช้ามาจะต้องปัสสาวะเป็นอันดับแรก (คุณผู้ชาย)ลองยืนโดยใช้หัวแม่เท้ายืนเขย่งปัสสาวะดู
จะเห็นความแตกต่างจากวันที่ผ่านมา
คือปัสสาวะจะพุ่งแรงและมีพลังคล้ายสมัยหนุ่มๆ
เพราะว่าจุดสำคัญของร่างกายคนเราอยู่ที่ปลายเท้าโดยเฉพาะหัวแม่เท้า
และสามารถขจัดกามตายด้านได้
คนที่สูงวัยขึ้นส่วนคนที่กลัวจะเป็นกามตายด้านจะลองฝึกดูก็ไม่เสียหายค่ะ



ที่มา: เทคนิค3ประการทำกายบริหารส่วนเท้า ของ ม. อึ้งอรุณ แปลและเรียบเรียง

Tuesday, September 2, 2008

ลดความอ้วนตามโหราศาสตร์




สวัสดีค่ะเนื่องจากภาระกิจการงาน
เยอะมากขึ้นแต่ก็พยายามเก็บเอาสิ่งดีๆมาฝากเสมอ
ไปอ่านหนังสือเล่มหนึ่งพูดถึงการลดความอ้วนตามหลัก
โหราศาสตร์แรกๆก็คิดว่าแบบนี้ก็มีด้วย..


คนที่เกิดวันอาทิตย์

ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทปิ้งย่างอาหารรสเผ็ดร้อนเช่นผัดเผ็ด
แกงคั่วกะทิ และผลไม้สีแดง เช่นแตงโมและที่สำคัญ
อาหารมื้อดึกหลังสามทุ่มโดยเฉพาะบรรดาวิทยากร
ที่หลังบรรยายแล้วไปนั่งทานอาหาร
มื้อดึกคุยกันเรื่องงานต่อนั่นแหละค่ะที่ทำให้อ้วน

คนที่เกิดวันจันทร์

ีควรให้งดหรือเลี่็ยงเหมือนวันอาทิตย์ค่ะคืออาหารปิ้งย่าง
และเผ็ดร้อน โดยเฉพาะหัวใจสัตว์ และ ผลไม้พวกสับปะรด

คนที่เกิดวันอังคาร

ไม่ควรทานอาหารที่มีแป้ง เช่น เผือก มัน เครื่องในสัตว์
งดผักผลไม้ที่สุกงอม ให้ทานผลไม้ที่ห่ามหรือดิบแทนค่ะ

คนที่เกิดวันพุธ

งดอาหารที่เป็นสัตว์ปีกและเนื้อวัวและยอดผัก เช่น ยอดฟักทอง
ตำลึงและผลไม้ที่มีหนามที่เปลือกและผลไม้ เช่น ทุเรียน หรือเงาะ

คนเกิดวันพฤหัสบดี

เลี่ยงอาหารจำพวกย่างและอบ รสเปรี้ยวหรือขม พวกหน่อไม้
และชะอม และผลไม้ที่มีเปลือกสีคล้ำหรือดำ

คนที่เกิดวันศุกร์

เลี่ยงอาหารหมักดองและใส่ผงชูรสค่ะ รวมถึงน้ำอัดลม
และผลไม้กระป๋องแนะนำให้เป็นผลไม้สดๆดีกว่านะคะ

คนที่เกิดวันเสาร์

เลี่ยงอาหารที่ทำจากกะทิหรือน้ำตาลปี๊ีบ น้ำมันหอย
และผลไม้ที่มีเปลือกนิ่ม เช่น แตงไทย


นอกจากเป็นคนที่ชอบศึกษาเรื่องโชคชะตา
และโหราศาสตร์แล้วเราสามารถนำเอาความรู้ลักษณะนิสัย
การทานอาหารของคนที่เกิดแต่ละวันใน7วัน
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะคะเพราะการกินของคนเรา
อยู่ที่ธาตุเจ้าเรือนในร่างกายรวมไปถึงการเผาผลาญอาหาร
หรืออาหารที่เราควรจะหลีกเลี่ยงลองเอาไปใช้ลดความอ้วนดูนะคะ



ขอบคุณ: สาระดีๆจากหนังสือ"ปฏิบัติการสร้างเสน่ห์หญิง"ของคุณลวนา วัฒนชัย..